Heat Stroke ระวัง!! วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิแตะที่39เซลเซียส ระวังสุขภาพทั้งตัวท่านเอง และสัตว์เลี้ยงของท่านด้วย โรคฮีทสโตรก โรคร้ายในหน้าร้อนที่เจ้าของสุนัขควรศึกษาวิธีสังเกตอาการ ดูแลรักษา และป้องกันเอาไว้ | https://www.santisookdogandcat.org
23 เม.ย. 2563 , เข้าชม 3,160 ครั้ง

Heat Stroke ระวัง!! วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิแตะที่39เซลเซียส ระวังสุขภาพทั้งตัวท่านเอง และสัตว์เลี้ยงของท่านด้วย โรคฮีทสโตรก โรคร้ายในหน้าร้อนที่เจ้าของสุนัขควรศึกษาวิธีสังเกตอาการ ดูแลรักษา และป้องกันเอาไว้

Heat Stroke ระวัง!!
   วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิแตะที่39เซลเซียส ระวังสุขภาพทั้งตัวท่านเอง และสัตว์เลี้ยงของท่านด้วย

   โรคฮีทสโตรก โรคร้ายในหน้าร้อนที่เจ้าของสุนัขควรศึกษาวิธีสังเกตอาการ ดูแลรักษา และป้องกันเอาไว้ ก่อนที่หน้าร้อนอันแสนสนุกของคุณกับสุนัข จะกลายเป็นความเศร้า

   ถึงแม้หน้าร้อนจะเป็นช่วงที่สุนัขสามารถออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องฝน แต่ด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นทุกขณะ บางครั้งความร้อนก็กลับกลายเป็นอาวุธที่ทำให้สุนัขเสียชีวิตได้เนื่องจากโรคฮีทสโตรก (Heatstroke) หรือโรคลมแดด ดังนั้นก่อนที่น้องหมาจะเป็นอะไรไป กระปุกดอทคอมได้รวบรวมข้อมูลทั้ง สาเหตุ อาการ วิธีการดูแลรักษา และป้องกันโรคฮีทสโตรกในน้องหมามาฝากกัน

ที่มาของโรคฮีทสโตรกในสุนัข

   โรคฮีทสโตรกจะเกิดขึ้นกับสุนัขที่สูญเสียการควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย เนื่องจากสุนัขไม่ได้ขับเหงื่อทางร่างกายเหมือนกับคน แต่จะระบายความร้อนผ่านการหายใจ ซึ่งถ้าหากสุนัขอยู่ในบริเวณที่มีการถ่ายเทความร้อนได้ไม่รวดเร็วพอ ก็จะทำให้เป็นโรคฮีทสโตรกได้

   โดยปกติแล้วอุณหภูมิร่างกายของสุนัขจะอยู่ที่ประมาณ 38-39 องศาเซลเซียส ซึ่งถ้าอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเมื่อไร ก็จะแสดงอาการของโรคฮีทสโตรกให้เห็น และจะเริ่มเป็นอันตรายกับตับ ไต หัวใจ รวมไปถึงสมอง เมื่อร่างกายของสุนัขมีอุณหภูมิสูงถึง 41-42 องศา

อาการโรคฮีทสโตรกในสุนัข

   อาการโรคฮีทสโตรกสามารถสังเกตได้เมื่ออุณหภูมิในร่างกายเริ่มสูงกว่า 39 องศาเซลเซียส หรือมีอาการหายใจลำบาก กระหายน้ำรุนแรง น้ำลายเหนียว เหงือกมีสีแดงเข้มแล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินหรือม่วง เหงือกหรือจมูกแห้ง ร่างกายดูเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย มีอาการเซ สับสนมึนงง ชัก อาเจียนบ่อย ท้องเสียเฉียบพลัน มีอาการโคม่า หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต

   ทั้งนี้ความรุนแรงของโรคฮีทสโตรกในสุนัขมีความแตกต่างกันไปตามขนาดรูปร่างของสุนัข และระยะเวลาที่อยู่ในที่ร้อนจัด ยิ่งอยู่ในพื้นที่นานและร้อนจัดมากๆ ก็ยิ่งเป็นอันตรายกับสุนัขมากขึ้น

ฮีทสโตรก โรคอันตรายของน้องหมาที่มากับหน้าร้อน

วิธีดูแลและรักษาเมื่อมีอาการฮีทสโตรก
1. นำสุนัขออกจากบริเวณที่มีความร้อนสูง
   หากเป็นไปได้ควรพาสุนัขมาอยู่ในที่ร่มที่มีลมโกรก หรือบริเวณที่มีไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ควรห้ามไม่ให้สุนัขออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง และวิ่งเล่นกลางแดดในช่วงเวลาดังกล่าว จนกว่าจะตรวจเช็กจนมั่นใจว่า สุนัขหายเป็นปกติแล้ว

2. ให้สุนัขดื่มน้ำเย็น
   ในระหว่างนี้ควรให้สุนัขดื่มน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องทีละน้อย เพราะถ้าปล่อยให้สุนัขดื่มน้ำมากเกินไปในเวลาอันรวดเร็ว อาจทำให้สุนัขอาเจียนได้ ส่วนในกรณีที่สุนัขไม่สนใจให้ใช้น้ำซุปไก่หรือน้ำซุปเนื้อแทนได้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรบังคับให้สุนัขดื่มน้ำ หากสุนัขไม่ยอมดื่มด้วยตัวเอง

3. ดับความร้อนด้วยน้ำเย็น
   ควรใช้น้ำที่มาจากก๊อกน้ำหรือสายยางรดน้ำลงบนตัวสุนัขด้วยระดับความดันน้ำที่ไม่แรงจนเกินไป และพยายามหลีกเลี่ยงการพาสุนัขไปแช่น้ำโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นอ่างอาบน้ำหรือสระว่ายน้ำ เพราะการแช่น้ำจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายของสุนัขลดลงเร็วเกินไป ก็จะทำให้มีอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น หัวใจวายเฉียบพลัน หรือท้องอืด

4. พาไปพบสัตวแพทย์
   ถึงแม้จะดูแลเป็นอย่างดีแต่ก็ไม่ควรวางใจเสียทีเดียว หากเป็นไปได้ควรพาไปพบสัตวแพทย์ด้วย เพราะแม้ภายนอกจะดูเป็นปกติดี แต่อวัยวะภายในร่างกายของสุนัขอาจมีบางส่วนที่เกิดความเสียหายจากโรคฮีทสโตรกได้ และถ้าหากไม่วินิจฉัยให้ละเอียดก็อาจทำให้สุนัขถึงตายได้

5. ใช้แอลกอฮอล์ลูบใต้ฝ่าเท้า
   เนื่องจากสุนัขระบายความร้อนที่ผ่านผิวหนังใต้อุ้งเท้า ฉะนั้นการใช้แอลกอฮอล์ลูบที่บริเวณดังกล่าวก็ช่วยให้การระบายความร้อนในร่างกายดีขึ้น ส่วนปริมาณของแอลกอฮอล์ไม่ควรใช้มากเกินไป เพราะจะเป็นอันตรายหากสุนัขเผลอเลียอุ้งเท้า

6. หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเย็นคลุมตัว
   เจ้าของสุนัขสามารถใช้ผ้าเย็นเช็ดตัวสุนัขเพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ แต่ไม่ควรใช้ผ้าเย็นห่มตัวสุนัขทิ้งไว้ เพราะนอกจากจะเป็นการลดการระบายอากาศแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความร้อนให้กับร่างกายของสุนัขด้วย อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงสถานที่ปิด เช่น กรงสุนัข แต่ให้พาสุนัขไปอยู่ในที่มีการถ่ายเทอากาศดี ก็ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายได้

วิธีป้องกันการเกิดโรคฮีทสโตรก
1. เลี่ยงต้นเหตุของโรคหรือทำให้อาการกำเริบ
   สุนัขที่มีอายุมาก เป็นโรคอ้วน และเคยมีประวัติโรคฮีทสโตรก หรือโรคชักมาก่อน มีโอกาสที่เป็นโรคฮีทสโตรกได้ง่าย จึงทำให้มีความเสี่ยงมากกว่าสุนัขทั่วไปโดยเฉพาะสุนัขจมูกสั้น เช่น ปั๊ก หรือบูลด็อก ส่วนสุนัขพันธุ์อื่น ๆ ก็มีโอกาสเป็นได้เช่นกัน ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีสภาพอากาศร้อนจัดไว้ก่อนจะดีกว่าฮีทสโตรก โรคอันตรายของน้องหมาที่มากับหน้าร้อน

2. ไม่ควรปล่อยให้สุนัขอยู่ในรถ
   หากไม่จำเป็นจริง ๆ ในช่วงฤดูร้อนไม่ควรให้สุนัขอยู่ในรถ ถึงแม้ว่าอากาศภายในรถจะไม่ร้อน หรือเปิดหน้าต่างรถทิ้งไว้ก็ตาม เพราะอุณหภูมิในรถช่วงฤดูร้อนแบบนี้สามารถเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตรายกับสุนัขมากทีเดียว

3. ตัดแต่งขนสุนัข
   ในหน้าร้อนแบบนี้เจ้าของควรพาสุนัขไปโกนหรือตัดขนให้สั้นลงด้วย โดยเฉพาะสุนัขที่มีขนทั้งหนาและยาว ที่สำคัญหากเป็นไปได้ควรพาสุนัขไปตัดขนกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้ออกแบบขนไปในตัวด้วย

4. นำสุนัขมาเลี้ยงไว้ในบ้านในวันที่มีแดดร้อนจัด
   หากอากาศร้อนจัดควรพาสุนัขมาอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ระหว่างวันที่มีแดดร้อนมาก ๆ หากไม่สามารถทำได้ก็ควรพาสุนัขไปอยู่ในที่ที่มีร่มเงา และมั่นใจว่าปลอดภัยกับสุนัขแทน

5. จัดหาน้ำและที่ร่มให้
   สำหรับบ้านที่เลี้ยงสุนัขไว้นอกบ้านควรเตรียมน้ำ และหาที่พักที่มีร่มเงาไว้ให้กับสุนัขด้วย นอกจากนี้ยังมีบางคนเทน้ำแข็งลงบนพื้นเอาไว้ให้สุนัขนอนกลิ้งในวันที่มีอากาศร้อนอีกต่างหาก

6. พาสุนัขไปเล่นน้ำ
   หากบ้านอยู่ใกล้กับแม่น้ำ หรือมีสระน้ำอยู่ในบ้าน ก็ควรหาโอกาสพาสุนัขไปเล่นน้ำ หรือไม่ก็ใช้น้ำลูบตัวสุนัขบ้าง ก็จะช่วยป้องกันโรคฮีทสโตรกได้ทางหนึ่งแต่อย่างไรก็ตามไม่ควรให้สุนัขลงเล่นน้ำลึกจนเกินไปนัก หากสุนัขมีทักษะการว่ายน้ำไม่ดีพอ

   และนี่คือโรคร้ายที่ก่ออันตรายให้กับสุนัขซึ่งเจ้าของควรระวัง ถึงแม้ไม่เคยมีประวัติก็อาจเป็นได้ อีกทั้งยังเป็นอันตรายถึงชีวิต ฉะนั้นเตรียมพร้อมรับมือเอาไว้ก่อนกันดีกว่านะคะ
เรื่องอื่นที่เกี่ยวข้อง

ท่านที่ส่งอาหารน้องหมาน้องแมว มาทางที่อยู่ ทางมูลนิธิสันติสุขเพื่อสุนัขและแมวจรจัด ได้รับเรียบร้อยแล้วค่ะ Thank you for all Donations ยิ่งทำยิ่งได้ยิ่งให้ยิ่งมี

ท่านที่ส่งอาหารน้องหมาน้องแมว มาทางที่อยู่ ทางมูลนิธิสันติสุขเพื่อสุนัขและแมวจรจัด ได้รับเรียบร้อยแล้วค่ะ Thank you for all Donations ยิ่งทำยิ่งได้ยิ่งให้ยิ่งมี

เมื่อพี่ป๊อปคอน ทำตัวเหมือนเด็กอีกครั้ง นานแค่ไหนที่เขาไม่ได้มี Moment แบบนี้ หาบ้านหลายรอบก็ยังไม่มีวี่แวว วันนี้จึงตัดสินใจที่จะดูแลเขาไว้ตลอดอายุไขที่เหลืออยู่ ไหนๆก็ร่วมทุกข์ ร่วมสุขผ่านทุกข์ ทรมานมาด้วยกันแล้วกว่าจะรอดปลอดภัย

เมื่อพี่ป๊อปคอน ทำตัวเหมือนเด็กอีกครั้ง นานแค่ไหนที่เขาไม่ได้มี Moment แบบนี้ หาบ้านหลายรอบก็ยังไม่มีวี่แวว วันนี้จึงตัดสินใจที่จะดูแลเขาไว้ตลอดอายุไขที่เหลืออยู่ ไหนๆก็ร่วมทุกข์ ร่วมสุขผ่านทุกข์ ทรมานมาด้วยกันแล้วกว่าจะรอดปลอดภัย

ทำหมัน ท่านที่รับอุปการะ ลูกสุนัขในงาน “ลำไยลำพูน” สามารถติดต่อกลับ เพื่อลงทะเบียน “ทำหมัน” ได้แล้วค่ะ

ทำหมัน ท่านที่รับอุปการะ ลูกสุนัขในงาน “ลำไยลำพูน” สามารถติดต่อกลับ เพื่อลงทะเบียน “ทำหมัน” ได้แล้วค่ะ
ติดต่อเรา
เบอร์โทรศัพท์ : 081-6382105 , 080-0045439 (Namfon Hilgers)
E-Mail : santisookdogsandcats@gmail.com
facebook : มูลนิธิสันติสุขเพื่อสุนัขและแมวจรจัด
เลขที่บัญชี : 403 7 834644
ชื่อบัญชีมูลนิธิ : ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีหางดง บัญชีออมทรัพย์
ชื่อบัญชี "มูลนิธิสันติสุขเพื่อสุนัขและแมวจรจัด"
"ท่านสามารถช่วยเรา เพื่อให้ชีวิตใหม่แก่พวกเขา โดยการบริจาคอาหารหรือนำเอาสุนัขและแมวเหล่านี้ไปรับอุปการะ สุนัขและแมวของศูนย์ได้รับการฉีดวัคซีน และตัวเมียได้รับการทำหมันแล้ว หรือท่านสามารถบริจาคโดยโอนเงินเข้าบัญชี"